วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

"Lomo" Product Analysis

"don't think, just shoot"

ณ เมือง St. Petersburg ในปี 2525 (1982) นายพล อีกอร์ เปรโตรวิช คอร์นิสกี้, มือขวาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและอุตสาหกรรมของ รัสเซีย ได้นำเอากล้องญี่ปุ่นตัวหนึ่งชื่อว่า Cosina CX-1,CX-2 มาให้กับสหายในพรรคคอมมิวนิสต์ ชื่อว่า นาย มิเชล พาฟิโลวิช พาฟิลอฟ นาย พาฟิลอฟ ซึ่งเป็นหัวหน้าใหญ่ของโรงงาน lomo ที่ผลิต len และ อาวุธของรัสเซีย

ทำการตรวจสอบกล้อง cosina นี้อย่างละเอียด แล้วพบว่า มันประกอบไปด้วย len ที่ไวแสงและคมชัด กับบอดี้ที่ทนทานแข็งแรง ได้เห็นประโยชน์และความสำคัญของกล้องเล็กๆ จึงได้สั่งให้ก๊อปปี้และพัฒนาในและผลิตออกมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้ชาวคอมมิวนิสต์ทุกคนมีติดตัวไว้

คุณสมบัติเฉพาะตัวที่เหลือเชื่อ คือ len "Minitar 1" ที่ถูกออกแบบโดย ศาสตราจารย์ ราดิโอนอฟ ให้มีคุณสมบัติ สร้างสีสรรบน film ให้สดใส และเก็บภาพมุมกว้าง, ระบบคำนวณแสงออโตเมติก จึงได้ภาพที่สวยงามและแตกต่างจากกล้องถ่ายรูปทั่วไปของญี่ปุ่น

หลังจากยุคสงครามของรัสเซีย นักศึกษาสองคนของประเทศออสเตรียเห็นถึงความแปลกทันสมัยของภาพที่ถ่ายจากกล้องโลโม ทำให้นิยมไปทั่วยุโรป และที่มาของ Lomography ที่น่าหลงไหลไปทั่วโลก

  • รุ่น LC_A ผลลัพธ์ที่ได้

มีแสงและสีที่เข้ม

  • รุ่น Fisheye ผลลัพธ์ที่ได้

เหมือนการส่องกล้องส่องทางไกล มีขอบของเลนส์กล้อง

  • รุ่น Supersampler ผลลัพธ์ที่ได้

การถ่ายภาพเป็น 4 ภาพ ด้วยส่วนต่างของเวลา

  • รุ่น Holga ผลลัพธ์ที่ได้

มีขอบดำตามมุมและขอบของภาพ

The 10 Golden Rules of Lomography

1. Take your camera everywhere you go

2. Use it anytime , Day and Night3. Lomography is not an interference in your life,but a part of it

4. Try shot from the Hip

5. Approach the objects of your lomographic desire as closely as possible

6. Don’t think 7. Be Fast

8. You don’t have to know beforehand what you’ve captured on film 9. Afterwards either 10. Don’t worry about any rules

Product ชิ้นนี้เหมือนการสร้างประสบการณ์ให้ผู้ซื้อ ซึ้งไม่จำเป็นต้องถ่ายภาพเก่ง แต่เพียงแค่สนุกกับการถ่ายภาพ เมื่อใช้กล้องจนเบื่อลูกค้าก็จะซื้อLomo อีกรุ่นหนึ่ง เพื่อตอบสนองความต้องการ

ไม่มีความคิดเห็น: